1. มีความมั่นคงทางการเงิน
ในฐานะที่เป็นบริษัทที่มีความมั่นคงทางการเงินสูงสุดมีความสามารถในการปฏิบัติตามสัญญาผูกพันทางการเงินที่มีต่อผู้ถือกรมธรรม์และผู้อื่นได้ตามระยะเวลาที่กำหนด มีฐานการเงินที่แข็งแกร่งและมั่นคง มีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีเลิศ มีระบบการพิจารณาประกันภัยที่ดี และมีระบบการบริหารและการจัดการที่มีประสิทธิภาพ โดย ณ เดือนธันวาคม 2546 บริษัทมีสินทรัพย์รวม กว่า 226,730 ล้านบาท และเงินสำรองประกันชีวิตกว่า 161,851 ล้านบาท
--------------------------------------------------------------------------------
2. เป็นผู้นำทางการตลาดของธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทย
ตลอดระยะเวลาที่เอไอเอดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เอไอเอเป็นบริษัทชั้นนำอันดับหนึ่งที่ครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดคือมากกว่าร้อยละ 45 ของมูลค่าเบี้ยประกันรับรวมแต่ละปีของธุรกิจมากว่า 19 ปี ติดต่อกัน และได้รับการยอมรับและไว้วางใจจากประชาชนไทยถือครองกรมธรรม์ประกันชีวิตรายบุคคลกว่า 3.6 ล้านฉบับ
--------------------------------------------------------------------------------
3. ตัวแทนและพนักงานมีคุณภาพ
เอไอเอเชื่อมั่นว่าการพัฒนาตัวแทนขายและผู้บริหารหน่วยให้มีคุณภาพสูงสุดเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จในระยะยาว เอไอเอจึงมุ่งพัฒนาตัวแทนให้มีคุณภาพ มีทักษะความชำนาญหลายด้านโดยการนำหลักสูตรพัฒนาตัวแทนใหม่ๆจากต่างประเทศ อาทิ หลักสูตร FAST ( Fast Agent Success Training ) และหลักสูตร FIT ( Fast Intensive Training ) เพื่อให้ตัวแทนกว่า 52,000 คนสามารถมอบบริการและตอบข้อซักถามของลูกค้าทุกกลุ่มได้อย่างถูกต้องและชัดเจน พร้อมกันนี้ เอไอเอยังมุ่งฝึกอบรมตัวแทนให้เป็นที่ปรึกษาทางด้านการเงิน ที่สามารถให้คำปรึกษาแนะนำลูกค้าในด้านการวางแผนการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ จนเป็นที่ยอมรับว่าตัวแทนเอไอเอมีคุณภาพ มีมาตรฐานการทำงานอย่างมีระบบ และมีความเข้าใจต่อความต้องการของลูกค้า ส่งผลให้ตัวแทนของเอไอเอได้รับคุณวุฒิ IQA ( International Quality Award ) เป็นจำนวนมากทุกปี
ซึ่งคุณวุฒิ IQA เป็นคุณวุฒิที่แสดงถึงมาตรฐานของตัวแทนมืออาชีพระดับสากล
--------------------------------------------------------------------------------
4. เป็นผู้นำในการพัฒนาออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่
นับตั้งแต่ได้เริ่มดำเนินธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทย เอไอเอไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าอย่างดีที่สุด จนเป็นที่ยอมรับในวงการธุรกิจประกันชีวิตว่าเอไอเอเป็นแม่แบบของธุรกิจประกันชีวิตและเป็นผู้นำทางการตลาดในประเทศไทย ดังจะเห็นได้จากผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ทั้งหมดของบริษัท
การรับประกันชีวิตรายบุคคล ( Individual Life Insurance)
การประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ( Personal Accident Insurance )
การประกันหมู่ ( Group Insurance )
โครงการออมทรัพย์รายเดือน ( Payroll Life)
ประกันสินเชื่อ ( Credit Life Insurance )
สินเชื่อเคหะ ( Housing Loans)
การจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund)
--------------------------------------------------------------------------------
5. การดำเนินงานด้วยระบบเทคโนโลยี่อันทันสมัย
เอไอเอเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกที่นำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยมาใช้ในการให้บริการแก่ลูกค้าเช่น การสร้างระบบฐานข้อมูลลูกค้าในการดำเนินงานด้านประกันภัย การนำระบบ Imaging & Workflow ที่ช่วยให้งานเอกสารและข้อมูลต่างๆเป็นไปอย่างถูกต้องและรวดเร็วมาสนับสนุนการดำเนินงานในด้านสินไหมทดแทน ( Claims) ให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
พร้อมทั้งสร้างระบบการให้บริการคุณภาพที่ครอบคลุมในทุกๆด้านจากจุดบริการเพียงจุดเดียว นอกจากนี้เอไอเอยังเป็นบริษัทประกันชีวิตแรกที่เปิดบริการให้ข่าวสารผ่านระบบอินเตอร์เน็ต http://www.aia.co.th เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ที่สนใจต้องการทราบข้อมูลและรายละเอียดที่เกี่ยวกับบริษัท อาทิ ประวัติของเอไอเอ ธุรกิจและการให้บริการรวมถึงกิจกรรมเพื่อสังคมเป็นต้น
ระบบผลิตใบเสนอขาย ( Sales Illustration System - SIS) เป็นอีกหนึ่งระบบเทคโนโลยีทันสมัยที่เอไอเอนำมาใช้เพื่อให้ตัวแทนได้ผลิตใบเสนอขายทำแบบประกันชีวิตและประกันอุบัติเหตุได้อย่างรวดเร็ว โดยส่งผ่านข้อมูลใบคำขอเอาประกัน ( Electronic Application System - EAS) ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยตรวจสอบข้อมูลใบคำขอเอาประกันให้เป็นไปตามหลักการพิจารณาเบื้องต้น พร้อมกันนี้ บริษัทได้นำระบบบริการข้อมูลหน่วย (Agency Management System - AMS) เข้ามาใช้ในการจัดระเบียบข้อมูลลูกค้าและตัวแทนประกันชีวิตในหน่วยตัวแทนต่างๆให้เป็นระเบียบและง่ายต่อการค้นหาข้อมูล
--------------------------------------------------------------------------------
6. พัฒนาบริการคุณภาพเพื่อความสะดวกสบายของลูกค้า
เอไอเอมิได้หยุดนิ่งในการพัฒนาการให้บริการคุณภาพแก่ลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายสูงสุด
ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการอันหลากหลายของเอไอเอได้ดังต่อไปนี้
ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ เอไอเอ ได้จัดตั้งศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์เพื่อมอบบริการให้กับผู้ถือกรมธรรม์ที่ต้องการติดต่อกับบริษัทโดยตรง โดยศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ตั้งอยู่ ณ ชั้น 1 อาคารเอไอบี
ถนนสุรวงศ์ตัดกับเดโช เขตบางรัก กรุงเทพ ให้บริการตั้งแต่เวลา 8.00-16.30 น.
ทุกวัน ยกเว้นวันเสาร์-อาทิตย์
เอไอเอ เฮลท์แคร์ เป็นบริการใหม่เพื่อสุขภาพชีวิตที่ เอไอเอ อำนวยความสะดวกแก่ผู้ถือกรมธรรม์ที่มีความจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลชั้นนำกว่า 155 แห่งทั่วประเทศ เอไอเอจะเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเต็มตามจำนวนสิทธิความคุ้มครอง โดยผู้ถือกรมธรรม์ไม่ต้องสำรองค่าใช้จ่าย
สายคุณภาพชีวิต 0-2638-6900 เป็นหมายเลขโทรศัพท์อัตโนมัติที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพที่ถูกต้องและเหมาะสมกับเพศและวัย และบริการความรู้ทางการแพทย์เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บต่างๆกว่า 400 รายการแก่ลูกค้า และประชาชนทั่วไปตลอด 24 ชั่วโมง
ศูนย์บริการข้อมูลทางโทรศัพท์ ( Call Center) ให้บริการข้อมูลทางโทรศัพท์เกี่ยวกับธุรกิจประกันชีวิตของบริษัทในทุกๆ ด้านโดยเจ้าหน้าที่
เอไอเอที่ได้รับการอบรมอย่างมืออาชีพ การให้บริการจะครอบคลุมถึง
การบริการข้อมูลผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ สำหรับตัวแทน
(หมายเลขโทรศัพท์ 0-2638-6388)
การบริการข้อมูลผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ สำหรับลูกค้า AIA Call Center "1581"
สำหรับต่างจังหวัด และโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่จดทะเบียนต่างจังหวัด กด 02-1581
รวมทั้งบริการทางด้านการแนะนำผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆของบริษัท (Telemarketing)
โฮมเพจ เอไอเอ เอไอเอ เป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกที่เปิดบริการข้อมูลข่าวสารผ่านทางอินเตอร์เน็ต http://www.aia.co.th เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการค้นหาข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับเอไอเอแก่ประชาชนทั่วไปที่สนใจ
หน่วยช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน ( Roadside Assistance service)
เอไอเอ ได้ร่วมมือกับ International SOS Services (Thailand) Ltd. มอบบริการเสริมตลอด 24 ชั่วโมงให้แก่ผู้ถือกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลวงเงิน 3,000 บาทขึ้นไป ที่ประสบปัญหาบนท้องถนน อาทิ เกิดอุบัติเหตุ รถเสีย ลืมกุญแจในรถ หรือต้องการติดต่อรถพยาบาล เป็นต้น โดยลูกค้าจะได้รับการช่วยเหลือในเบื้องต้นภายใน 1-2 ชั่วโมง โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมบริการใดๆ แต่หากลูกค้ามีรายการซ่อมแซมพาหนะ ใช้บริการลากรถหรืออื่นๆ ลูกค้าต้องเสียค่าบริการและค่าอะไหล่ในราคาปกติ
การชำระเบี้ยประกันผ่านช่องทางต่างๆ
1. ชำระด้วยเงินสดผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารธนาคารพาณิชย์ ทุกสาขาทั่วประเทศ
2. ชำระด้วยเงินสดผ่านที่ทำการไปรษณีย์กว่า 1,200 แห่งทั่วประเทศ
3. ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น และร้านค้าที่มีเครื่องหมายเคาน์เตอร์เซอร์วิสในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดใกล้เคียง
4. ชำระที่บริษัท เอ.ไอ.เอ จำกัด ณ อาคาร เอ.ไอ ทาวเวอร์
5. ชำระผ่านตัวแทน หรือ สำนักงานตัวแทนประกันชีวิต เอ.ไอ.เอ.
6. ชำระผ่าน ธนาคารออมสิน ทุกสาขาทั่วประเทศ
7. ชำระด้วยเช็คส่งทางไปรษณีย์
8. ชำระผ่านเครื่อง ATM ของธนาคาร
9. ชำระด้วยเงินสดผ่าน "บัญชีเบ็ดเตล็ด" ( Bill Payment )
10. ชำระโดยหักบัญชีเงินฝากธนาคาร
11. ชำระเบี้ยประกันผ่าน Internet (ePayment)
12. ชำระเบี้ยประกันโดยหักบัญชีบัตร AIG Credit Card อัตโนมัติ
--------------------------------------------------------------------------------
7. การลงทุนที่มีประสิทธิภาพ
เอไอเอตระหนักดีว่าเบี้ยประกันภัยที่บริษัทได้รับมาเป็นจำนวนมากทุกปีนั้นมาจากเงินออมของประชาชน
เอไอเอ จึงเน้นการลงทุนที่รัดกุมและคำนึงถึงผลประโยชน์ที่จะตอบแทนให้กับผู้ถือกรมธรรม์ สังคมและเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม ดังปรากฏในส่วนหนึ่งของคำกล่าวของฯพณฯ รองนายก กรมหมื่นนราธิปพงษ์ประพันธ์ ซึ่งให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดอาคาร เอไอบี ในปีพ.ศ. 2509 ความว่า
"นโยบายที่น่าสรรเสริญยิ่งก็คือ การนำรายได้จากประชาชนคนไทยในรูปเบี้ยประกันกลับมาลงทุนในประเทศไทย โดยการซื้อพันธบัตรรัฐบาลและทรัพย์สินอื่นๆ ซึ่งเกิดขึ้นด้วยความมุ่งมั่นที่จะช่วยส่งเสริมพัฒนาเศรษฐกิจไทย ซึ่งเราประชาชนคนไทยต่างภูมิใจยิ่ง"
ทั้งนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เอไอเอ ยึดหลัก
นโยบายการลงทุนที่เคร่งครัดและมีมาตรฐานโดยทีมบริหารการลงทุนมืออาชีพได้วิเคราะห์และบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมเพื่อให้คุณภาพของสินทรัพย์ลงทุน มีความเสี่ยงต่ำและมีการกระจายความเสี่ยง
การลงทุนจะสอดคล้องกับกฎเกณฑ์การลงทุนตามประกาศกระทรวงพาณิชย์เรื่องการลงทุน
มีการวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบโดยคำนึงถึงสภาพคล่องของสินทรัพย์ สภาวะของเศรษฐกิจโดยรวม ตลาดการเงิน รวมทั้งแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ย
การมีส่วนร่วมในการพัฒนาตลาดเงินและตลาดทุน
การลงทุนอย่างรอบคอบเช่นนี้ ทำให้เอไอเอมีผลตอบแทนจากการลงทุนค่อนข้างคงที่และสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ ส่งผลให้บริษัทมีสภาพคล่องที่ดีเยี่ยมในการที่จะรองรับภาระการใช้จ่ายการเงินใดๆที่กำหนดไว้ตามกรมธรรม์ รวมทั้งการสร้างผลตอบแทนในอัตราที่เหมาะสมต่อผู้ถือกรมธรรม์
สัดส่วนการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของสินทรัพย์ลงทุนในปัจจุบันคือประมาณ 90% ได้นำไปลงทุนในธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนที่แน่นอน (Fixed Income) และมีความเสี่ยงต่ำคือ
การลงทุนในซื้อพันธบัตรรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ อาทิ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน การทางพิเศษ
การลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทที่มีฐานะการเงินและกิจการที่มั่นคง
การให้สินเชื่อระยะกลางและระยะยาวประเภทที่ต้องมีการค้ำประกันสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์แก่บริษัทต่างๆ ( Bank Guaranteed Loans ) ***
การฝากเงินในธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ทั้งของประเทศไทยและสาขาของธนาคารต่างประเทศที่มีความมั่นคง
ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวข้างต้นจะช่วยเกื้อหนุนให้หน่วยงานทั้งภาครัฐบาลและเอกชนสามารถนำไปลงทุนในโครงการต่างๆ เช่น โครงการสาธารณูปโภคเพื่อพัฒนาประเทศ เป็นต้น
สำหรับสัดส่วนของสินทรัพย์ลงทุนอีกประมาณ 10% จะนำไปลงทุนในรูปแบบดังนี้
Direct Investment การลงทุนในส่วนนี้จะเป็นการไปซื้อหุ้นของบริษัทต่าง ๆ ทั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมทั้งลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ โดยมุ่งลงทุนในธุรกิจที่มีระบบการบริหารจัดการที่ดีและมีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยบริษัทสามารถส่งตัวแทนเข้าร่วมในการกำหนดนโยบายและแนวทางในการดำเนินกิจการได้
Listed Equities Investment การลงทุนในส่วนนี้จะนำไปลงทุนซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมุ่งเน้นในธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อาทิ กลุ่มพลังงาน โทรคมนาคม และอีเล็กโทรนิกส์ อย่างไรก็ตาม การลงทุนในส่วนนี้จะมีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาตามสภาวะตลาด
จะเห็นว่า บริษัทจะเน้นการลงทุนระยะยาวในพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ เนื่องจากเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำและมีผลตอบแทนที่แน่นอน อีกทั้งยังเป็นการระดมเงินเพื่อลงทุนในโครงการเพื่อการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ อาทิ โครงการสาธารณูปโภค การขนส่งมวลชน สื่อสารโทรคมนาคม การผลิตกระแส ไฟฟ้า การประปา เป็นต้น ซึ่งหลักทรัพย์ดังกล่าว นอกจากจะมีความมั่นคงเพราะมีรัฐบาลเป็นประกันแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบของเอไอเอที่มีต่อประเทศไทย ในการสนับสนุนรัฐบาลในการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ และความรับผิดชอบต่อผู้ถือกรมธรรม์ในการบริหารเงินออมอย่างมั่นคงและให้ผลตอบแทนที่แน่นอนอีกด้วย
*** ณ 30 กันยายน พ.ศ. 2547 เอไอเอ มีสินทรัพย์ลงทุนจำนวนทั้งสิ้น 2.4 แสนล้านบาท
หน้าหลัก| ประกันชีวิตและประกันสุขภาพ| กรมธรรม์ประกันชีวิตรายบุคคล| ประกันภัยเพื่อชีวิต| การประกันชีวิต| ฟรีเว็บบอร์ด| คำถาม| บริการอื่น| ประกันภัยโรคมะเร็ง| ติดต่อเรา| สมัครตัวแทนประกัน